Share

โจรไซเบอร์ หลอกผู้โดยสาร ใช้ Wi-Fi ปลอมในสนามบิน

Last updated: 15 Aug 2024
245 Views
โจรไซเบอร์ หลอกผู้โดยสาร ใช้ Wi-Fi ปลอมในสนามบิน

โจรไซเบอร์ หลอกผู้โดยสาร ใช้ Wi-Fi ปลอมในสนามบิน

วันนี้ผมอยากขอหยิบยกเรื่องภัยร้ายใกล้ตัวอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งหลายคนมองข้ามไปทำให้ตกเป็นเหยื่ออย่างไม่รู้ตัว

แน่นอนว่า ต้องมีคนจำนวนไม่น้อยเคยไปสนามบินเพื่อเดินทาง ทำงานในสนามบิน หรือไปรับ-ส่งคน และไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไรก็แล้วแต่ เชื่อว่าหลายคนเลือกใช้ wifi ฟรีในสนามบินโดยลืมคำนึงถึงความปลอดภัยและภัยร้ายเงียบที่แฝงตัวมา

โดยกรณีล่าสุดที่กำลังตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ ทางสายการบินหนึ่งได้รายงานเกี่ยวกับเครือข่าย Wi-Fi ที่น่าสงสัย ซึ่งพนักงานของสายการบินตรวจพบระหว่างเที่ยวบินภายในประเทศออสเตรเลียและได้แจ้งเรื่องให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ

ส่งผลให้ตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย AFP ตรวจสอบและได้รวบตัวชายชาวออสเตรเลียวัย 42 ปี ในข้อหาสร้าง Wi-Fi ปลอมเพื่อการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยขณะเดินทางกลับมายังสนามบินเพิร์ธด้วยเที่ยวบินภายในประเทศ จากนั้นได้ค้นสัมภาระและยึดอุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สายแบบพกพา แล็ปท็อป และโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจค้นบ้านของเขาในเมืองพอลไมรา รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยทีมปฏิบัติการอาชญากรรมไซเบอร์ของกองบัญชาการภาคตะวันตกของ AFP ได้วิเคราะห์ข้อมูลและอุปกรณ์ที่ยึดมาได้ และพบว่ามีเพจ Wi-Fi ปลอมถึง 3 สนามบิน ทั้งในเมืองเพิร์ธ เมลเบิร์น และแอดิเลดบนเที่ยวบินภายในประเทศ รวมถึงในสถานที่ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับที่ทำงานเดิมของผู้ต้องสงสัย มากกว่านั้นยังตรวจพบข้อมูลส่วนบุคคลหลายสิบรายการที่เป็นของบุคคลอื่นบนอุปกรณ์ของเขาอีกด้วย

ผู้ต้องสงสัยรายนี้ถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมในโลกไซเบอร์ถึง 9 ข้อหา จากที่มีการสร้างเครือข่ายจุดเชื่อมต่อที่ลอกเลียนแบบเครือข่ายที่ถูกต้องตามกฏหมายและติดตั้ง Free Wi-Fi ปลอมหลายตำแหน่งภายในสนามบินเพื่อบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลจากเหยื่อที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านั้นโดยไม่ตั้งใจ

เมื่อเหยื่อเริ่มการเชื่อต่ออุปกรณ์กับเครือข่าย Wi-Fi ฟรี ก็จะถูกนำไปยังหน้าเว็บปลอมที่กำหนดให้ต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยอีเมลหรือข้อมูลเข้าสู่ระบบโซเชียลมีเดีย ข้อมูลทั้งหมดเหล่านั้นจะถูกบันทึกไว้ในอุปกรณ์ของเขาเพื่อนำมาใช้เข้าถึงไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล การสื่อสารออนไลน์ รูปภาพ วิดีโอที่บันทึกไว้ และรายละเอียดทางการเงินธนาคารของเหยื่ออีกด้วย

กรณีดังกล่าวถือเป็นการเตือนให้ระมัดระวังในการเข้าสู่ระบบเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะและเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น ผู้ใช้งานจึงควรทำตามคำแนะนำในการใช้งาน Wi-Fi Hotspot อย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • ติดตั้ง VPN (Virtual Private Network) ที่น่าเชื่อถือบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเพื่อเข้ารหัสและรักษาความปลอดภัยข้อมูลเมื่อมีการใช้งานอินเทอร์เน็ต
  • ปิดการใช้งานการแชร์ไฟล์
  • หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi ฟรีเพื่อทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลสำคัญอย่าง การทำธุรกรรมทางการเงิน
  • เมื่อใช้ Wi-Fi ฟรีเสร็จแล้ว ให้เปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณเป็น forget network ทันที
  • ปิด Wi-Fi บนโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไปเชื่อมต่อกับฮอตสปอตโดยอัตโนมัต

สุดท้ายผู้ใช้งานต้องจำไว้เสมอว่า "การเชื่อมต่อ Wi-Fi ฟรี ไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดส่วนตัวใดๆ หรือการเข้าสู่ระบบผ่านอีเมล/บัญชีโซเชียลมีเดีย" ครับ

สามารถติดตามบทความจาก CEO ผ่านทางบทความ Think Secure โดย คุณนักรบ เนียมนามธรรม (นักรบ มือปราบไวรัส) เป็นประจำทุกสัปดาห์ ได้ทางหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หรือช่องทาง Online ที่ https://www.bangkokbiznews.com/category/tech/gadget 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม 2567)
https://www.bangkokbiznews.com/blogs/tech/gadget/1135981 

Related Content
This website uses cookies to enhance your experience and providing the best service from us. Please confirm the acceptance. You can learn more about our use of cookies from our Policy. Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare